สำนักข่าววีโอเอ รายงานว่า นักวิจัยในเยอรมนีและนอร์เวย์ได้ศึกษาและค้นพบว่า คนที่มีเลือดกรุ๊ปเอ (A+) มีความเสี่ยงที่จะติดโควิด-19 สูงกว่า และมีอาการรุนแรงมากกว่าคนกรุ๊ปเลือดอื่นๆ
ผลการวิจัยครั้งนี้ ได้ทำการศึกษาผู้ป่วยโควิด-19 ประมาณเกือบ 2,000 คนในอิตาลี และสเปน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
สิ่งที่ค้นพบคือ ในจีโนม หรือหน่วยพันธุกรรมทั้งหมดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างปกติของมนุษย์ จะมีสองจุดที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของคนเราที่จะเกิดภาวะระบบทางเดินทางหายใจล้มเหลว หากติดโควิด-19 ซึ่งหนึ่งในจุดสองจุดนั่นคือ พันธุกรรม หรือยีนส์ ที่เป็นตัวบ่งบอก “กรุ๊ปเลือด”
ทั้งนี้ พบว่า คนเลือดกรุ๊ปเอ จะมีโอกาสสูงกว่าคนเลือดกรุ๊ปอื่นถึง 45% ที่จะเกิดภาวะหายใจล้มเหลว นั่นหมายความว่า มีโอกาสสูงที่จะต้องการออกซิเจน หรือต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการรักษาโควิด-19
ข้อมูลนี้ สามารถเป็นตัวช่วยให้กับทีมหมอและพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 เพราะสาเหตุหนึ่งของการเสียชีวิตในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 คือ ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหายใจล้มเหลว เนื่องจากมีอาการติดเชื้อในปอด หรือมีอาการหายใจไม่ออกแบบเฉียบพลัน
ในรายงานระบุด้วยว่า ในสหรัฐ และไทย มีคนที่มีเลือดกรุ๊ปเอ มากเป็นอันดับที่ 2 รองจากเลือดกรุ๊ปโอ ซึ่งในการศึกษาพบกว่า คนเลือดกรุ๊ปโอ มีโอกาสที่จะเกิดภาวะหายใจล้มเหลวจากโควิด-19 น้อยกว่าหมู่เลือดอื่นๆ ถึง 35%
อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาครั้งนี้ ยังได้อ้างอิงถึงการระบาดของโรคซาร์ส เมื่อ 17 ปีก่อน พบว่าคนเลือดกรุ๊ปเอ มีโอกาสจะติดโรคมากกว่าด้วยเช่นกัน
กรุ๊ปเลือด หรือ หมู่เลือด คือ ตัวที่บ่งบอกความแตกต่างของเลือดของแต่ละบุคคล สามารถทราบกรุ๊ปเลือดได้จากการตรวจสารที่มีชื่อว่า แอนติเจน (Antigen) ที่มีอยู่ในเลือด ซึ่งความแตกต่างของแอนติเจนในแต่ละบุคคลจะถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรม จากพ่อหรือแม่สู่ลูก
เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2564 ได้มีงานวิจัยเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ต่อการติดต่อของเชื้อโควิด-19 ผ่านการศึกษา วิจัย และนำเสนอในวารสาร Blood Advances โดย Annals of Hematology โดยผลการศึกษาในเบื้องต้นพบว่าเชื้อไวรัสโคโรน่า-19 มีการจับตัวกับแอนติเจนของกรุ๊ปเลือด A โดยเฉพาะที่พบในเซลล์ทางเดินทางหายใจมากเป็นพิเศษ
ซึ่งจากการศึกษาค้นคว้านี้หากเราสามารถเข้าใจกลไกการทำงานตัวเชื้อไวรัสและสามารถหาความเกี่ยวข้องกับกรุ๊ปเลือดได้ นั่นอาจทำให้เราสามารถหาการรักษาและวิธีในการป้องกันในอนาคตได้
ต่อมาเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2564 ได้มีรายงานข่าวจาก Harvard Medical School ว่าทางคณะวิจัยประจำ Massachusetts General Hospital รายงานว่ากรุ๊ปเลือดนั้นไม่มีความสัมพันธ์ต่อการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลงานวิจัยนี้ได้เป็นการลบล้างรายงานที่ได้มีการศึกษามาก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม จากผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า คนที่มีกรุ๊ปเลือด B และ AB Rh+ มีแนวโน้มที่จะมีผลตรวจเจอเชื้อโควิด-19 และคนที่มีกรุ๊ปเลือด O มีโอกาสน้อยที่จะตรวจเจอเชื้อโควิด-19 แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนและอยู่ในขั้นตอนการศึกษาต่อไป
ซึ่งเป็นข้อสรุปได้ว่ากรุ๊ปเลือดไม่มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 แต่ในอนาคต หากมีการศึกษาวิจัยในกลุ่มตัวอย่างที่มีจำนวนมากพอก็อาจได้ข้อสรุปเพิ่มเติมเพื่อที่จะพัฒนายารักษาและวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันจากตัวเชื้อไวรัส
ไม่ว่าจะเป็นกรุ๊ปเลือดไหนก็มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ได้ หากไม่มีการป้องกันและดูแลตัวเองที่ดี สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ และทำความสะอาดสิ่งของที่ต้องสัมผัสบ่อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงในติดเชื้อและเพิ่มความปลอดภัยให้กับตัวเรา